Cold War สงครามเย็น
เรียบเรียงโดยนาลิน คงชูดี
1. นิยามสงครามเย็น
สงครามเย็น หมายถึง
การประจันหน้าด้านอุดมการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา
ผู้นำลัทธิเสรีประชาธิปไตยกับ สหภาพโซเวียตประเทศ ผู้นำลัทธิคอมมิวนิสต์
เป็นการปะทะกันทุก ๆ วิถีทาง ยกเว้นด้านการทหาร การขยายอำนาจในสงครามเย็นจึงเป็นลักษณะการแสวงหาพรรคพวกร่วมอุดมการณ์และแข่งขันกันเป็นมหาอำนาจทางการเมือง การทหาร และเศรษฐกิจ โดยไม่ทำสงครามกันอย่างเปิดเผย
แต่เป็นการสนับสนุนให้ประเทศที่เป็นพวกของแต่ละฝ่ายทำสงครามตัวแทน
1. ความขัดแย้งด้านอุดมการณ์
เมื่อสหภาพโซเวียตนำลัทธิคอมมิวนิสต์มาใช้บริหารประเทศ ทำให้เกิดความหวาดระแวงในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ
2.ความขัดแย้งผลประโยชน์ของชาติ สหภาพโซเวียตเน้นในด้านความมั่นคงปลอดภัยโดยเฉพาะพรมแดน
ด้านตะวันตกเป็นจุดอ่อนถูกศัตรูบุกรุกได้ง่าย สหภาพโซเวียตจึงดาเนินการสถาปนารูปแบบการปกครอง
แบบคอมมิวนิสต์ในประเทศยุโรปตะวันออกซึ่งมีฐานะเป็นประเทศบริวารส่วนความขัดแย้งในด้านเศรษฐกิจ
เนื่องมาจากสหรัฐอเมริกาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นประเทศเจ้าหนี้ทุนนิยมที่ร่ำรวยที่สุด หากปล่อยให้ลัทธิคอมมิวนิสต์ขยายตัว จะทำให้สหรัฐอเมริกาต้องสูญเสียหนี้สิน แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ
และเกียรติภูมิของชาติ
3. เกิดช่องว่างแห่งอำนาจทางการเมือง เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองระหว่างประเทศ
โดย อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี หมดอำนาจลง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตขึ้นมาเป็นมหาอำนาจแทนจึงเกิดเผชิญหน้ากัน
สหภาพโซเวียตขยายอิทธิพลลัทธิคอมมิวนิสต์เข้าไปยังเขตยุโรปตะวันออก
ประเทศโปแลนด์ ฮังการี ยูโกสลาเวีย แอลเบเนีย บัลแกเรีย โรมาเนียและเซคโกสโลวะเกียตกเป็นประเทศบริวาร ขณะเดียวกันสหภาพโซเวียตยังต้องการคุมช่องแคบอสฟอรัสและช่องแคบดาร์ดะแนลล์ซึ่งเป็นเส้นทางการเดินเรือระหว่างทะเลดากับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จึงส่งกองทัพเข้ารุกรานตุรกีและกรีซซึ่งเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษ อังกฤษไม่สามารถต้านทานอิทธิพลของสหภาพโซเวียตได้จึงขอความช่วยเหลือไปยังสหรัฐอเมริกา
ประธานาธิบดีทรูแมน(Harry S. Truman) ได้ออกประกาศหลักการทรูแมน (Truman Doctrine) โดยจะให้ความช่วยเหลือทั้งทางการเงินและการทหาร สหภาพโซเวียตไม่พอใจและตอบโต้ด้วยการเรียกร้องให้ประเทศคอมมิวนิสต์ทั่วโลกร่วมมือกันต่อต้านการขยายอิทธิพลของจักรวรรดิอเมริกาและพันธมิตร สงครามเย็นและสงครามร้อนจึงเริ่มแพร่ขยายออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ
4. ขั้วอำนาจ
- ฝ่ายโลกเสรี
ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษ เกาหลีใต้ เยอรมันตะวันตก เวียดนามใต้ ไทย
- ฝ่ายโลกคอมมิวนิสต์
ได้แก่ สหภาพโซเวียต เกาหลีเหนือ เยอรมันตะวันออก เวียดนามเหนือ ออสเตรีย
5. วิธีการที่ใช้ในสงครามเย็น
1. การเผยแพร่และการโฆษณาชวนเชื่อ
แนวความคิดหรืออุดมการณ์ทางการเมือง ด้วยวิธีปลูกฝัง ชักจูงให้เกิดความเชื่อในตัวบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
โดยใช้คำพูด สิ่งตีพิมพ์ หรือสัญลักษณ์ ต่าง ๆ
2. การแข่งขันทางการทหาร
ทั้งสองฝ่ายต่างแข่งขันกันเสริมสร้างพัฒนาอาวุธแบบใหม่และกำลังทหารให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สะสมอาวุธร้ายแรงไว้ในครอบครองให้มากที่สุด
3. การให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ
แต่ละฝ่ายต่างแข่งขันกันให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่มิตรประเทศของตน
โดยวิธีบริจาคเงินให้ ให้กู้ยืมเงิน ร่วมลงทุน ให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค
ให้เงินทุนการศึกษา
4. นโยบายทางการฑูต
มหาอำนาจทั้งสองฝ่ายต่างพยายามใช้นโยบายทางการฑูตเป็นเครื่องมือ
เพื่อสร้างอิทธิพลเหนือประเทศอื่น มีการจัดประชุมระดับผู้นำ
ระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ
5.
การแข่งขันทางวิทยาการและเทคโนโลยี ซึ่งแต่ละฝ่ายพยายามแสดงออกถึงผลงานความสำเร็จก้าวหน้าของตน
เช่น การคิดค้นพัฒนาขีปนาวุธ การส่งดาวเทียมไปโคจรนอกโลก การสำรวจดวงจันทร์
ดาวอังคาร เป็นต้น
6. สถานการณ์
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1947 สหรัฐอเมริกาประกาศ
ใช้แผนการมาร์แชล
(Marshall Plan) เพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเศรษฐกิจทุกประเทศทั้งฝ่ายประชาธิปไตยและคอมมิวนิสต์ที่มีปัญหาเศรษฐกิจเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่2 สหภาพโซเวียตตอบโต้ โดยจัดตั้งองค์การ โคมินฟอร์ม (Cominform)
ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก
และขยายลัทธิคอมมิวนิสต์ให้แพร่หลายไปทั่วโลก พร้อมกับประกาศแผนการโมโลตอฟ
(Molotov Plan) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ประเทศคอมมิวนิสต์ในยุโรป
สหภาพโซเวียตได้ก่อวิกฤตการณ์โดยปิดล้อมเบอร์ลิน
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ.
1948 เพื่อตัดเส้นทางคมนาคมในเขตยึดครองของฝ่ายเสรีประชาธิปไตย แต่สหรัฐอเมริกาแก้ไขได้
โดยจัดส่งเสบียงอาหาร และสัมภาระเข้าช่วยทางอากาศทำให้สหรัฐอเมริกาต้องจัดตั้งองค์การทหารแก่สมาชิก
ในค่ายโลกเสรีสหภาพโซเวียต ตอบโต้ด้วยการรวมกลุ่มพันธมิตรฝ่ายตนตั้งองค์การสนธิสัญญาวอร์ซอ
(Warsaw Treaty Organization) และจัดตั้งองค์การโคมีคอน
(Comecon) เพื่อเข้าช่วยเหลือทางเศรษฐกิจตามแผนการโมโลตอฟ
สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส
ได้ร่วมมือกันสถาปนาเยอรมนีในเขตยึดครองเป็นประเทศสาธารณรัฐเยอรมนี
(เยอรมนีตะวันตก) เพื่อสร้างเยอรมนีให้เข้มแข็งไว้ต่อต้านคอมมิวนิสต์
สหภาพโซเวียตได้สถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตย เยอรมนี(เยอรมนีตะวันออก)
ในเขตยึดครองของตนในเดือนตุลาคม 1949
ในปีเดียวกันสงครามเย็นในระยะแรกทั้งสองค่ายต่างป้องปรามซึ่งกันและกันด้วยยุทธวิธีทุกรูปแบบ
ทำให้การเมือง ระหว่างประเทศทวีความตึงเครียดสูงขึ้น ใน ค.ศ. 1960
สหภาพโซเวียตได้สร้างกำแพงปิดล้อมเบอร์ลิน ตะวันตกเพื่อสกัดกั้นชาวเยอรมนีตะวันออก
ไม่ให้หลบหนีเข้าเขตเบอร์ลินตะวันตก กำแพงเบอร์ลินจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของสงครามเย็นในยุโรป
ค.ศ. 1949-1955 ลัทธิคอมมิวนิสต์ได้ขยายตัวมายังจีนในระยะที่จีนมีปัญหาการเมืองภายในประเทศอันเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นสาธารณรัฐ เกิดปัญหาเศรษฐกิจ ซุนยัดเซ็นต้องยอมรับความช่วยเหลือจากสหภาพโซเวียต
พรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงเกิดขึ้น
เมื่อเหมาเจ๋อตุงขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคในระยะต่อมาได้เกิดการขัดแย้งกับเจียงไคเช็คเป็นเหตุให้เกิดสงครามกลางเมือง
เหมาเจ๋อตุงใช้ยุทธวิธีการรบแบบใหม่่ให้ชาวนาในชนบทเป็นฐานการต่อสู้กับรัฐบาล
จนมีชัยชนะสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในเดือนตุลาคม ค.ศ.1949
เจียงไคเช็คได้อพยพไปอยู่ไต้หวันจัดตั้งรัฐบาลจีนคณะชาติ
สงครามเย็นได้ขยายเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อมีสาธารณรัฐประชาชนจีนและสหภาพโซเวียตเข้ามามีบทบาทให้การสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอินโดจีนเป็นเขตที่เกิดสงครามเย็นรุนแรงมาก อินโดจีนประกอบด้วย
ลาว กัมพูชา เวียดนาม เป็นเขตอาณานิคมของฝรั่งเศส เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นให้เอกราชอินโดจีน เมื่อสงครามสิ้นสุดลงฝรั่งเศสกลับมาปกครองอินโดจีนอีก
ทำให้เวียดนามประกาศเอกราชจึงเกิดการสู้รบกันขึ้นโดยมีสาธารณรัฐอเมริกาหวาดกลัวภัยจากจีนมากได้นำนโยบายปิดล้อมคอมมิวนิสต์มาใช้ในเอเชีย
โดยการจัดรวมกลุ่มพันธมิตรร่วมป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEATO)ในค.ศ.1954เพื่อสกัดกั้นคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยมีสำนักงานอยู่ที่กรุงเทพฯ
เมื่อสงครามโลกครั้งที่
2 ยุติลงมี 4 ประเทศเข้ายึดครองเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐฯ และ สหภาพโซเวียต
โดย อังกฤษ ฝรั่งเศส และ
สหรัฐฯพยายามที่สถาปนาดินแดนเยอรมันทั้งหมดเข้าด้วยกันแต่สหภาพโซเวียตไม่ยินยอม
จึงทำให้ อังกฤษ ฝรั่งเศส และ สหรัฐฯรวมดินแดนเยอรมันที่ตนเองยึดครองไว้เข้าด้วยกันเป็น
สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน(เยอรมันตะวันตก)
ส่วนดินแดนที่สหภาพโซเวียตยึดครองสถาปนาเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมัน
(เยอรมันตะวันออก)
หลังจากนั้นมีการสร้างกำแพงเบอร์ลิน
(Berlin
Wall) เป็นกำแพงที่กั้นเบอร์ลินตะวันตก ออกจากเยอรมนีตะวันออกโดยรอบ
เพื่อจำกัดการเข้าออกระหว่างเบอร์ลินตะวันออกและตะวันตก
โดยกาแพงเบอร์ลินนี้ได้ถูกสร้างไว้เป็นระยะเวลา 28 ปี
ก่อนจะทลายลงในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 (ค.ศ.1989) เยอรมันทั้งสองประเทศได้ผนวกเข้าเป็นประเทศเดียวกัน
ซึ่งถือกันว่าเป็นการสิ้นสุดยุคสงครามเย็น เพราะกำแพงเบอร์ลินถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของสงครามเย็น
สงครามเกาหลี
เมื่อสงครามโลกครั้งที่
2 ยุติลง เกาหลีเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเทศโดยใช้เส้นขนานที่ 38
เป็นเส้นแบ่งเขต โดยเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์
ส่วนเกาหลีใต้ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ต่อมาเมื่อ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2493 ได้เกิดสงครามเกาหลีขึ้น
เมื่อกำลังทหารเกาหลีเหนือทำการรุกข้ามเส้นขนานที่ 38 ลงมา และเมื่อ 28 มิถุนายน
พ.ศ. 2493 สามารถยึดกรุงโซลได้
สหประชาชาติได้มีมติให้นำกำลังทหารเข้าช่วยเกาหลีใต้
ภายใต้การนำของสหรัฐฯ(มีกำลังทหารจากประเทศไทยเข้าร่วมด้วย) เมื่อกำลังสหประชาชาติเข้าไปช่วยเหลือเกาหลีใต้
ทำให้จีนเคลื่อนย้ายกำลังพลเข้าสู่พื้นที่การรบตามมา
ในสงครามเกาหลีตลอดห้วงเวลาร่วม3 ปีที่รบกันมา การสู้รบด้วยกาลังทหารขนาดใหญ่แทบจะไม่เกิดขึ้นอีก
ทำให้มีความพยายามที่จะเจรจาสงบศึกกันของทั้งสองฝ่าย
ต่อมามีข้อตกลงสงบศึกที่เป็นผลจากการเจรจาที่ยืดเยื้อถึง 255 ครั้ง
โดยองค์การสหประชาชาติได้เข้ามาไกล่เกลี่ย ในสงครามเกาหลีนี้
มีผู้สูญเสียจากการรบกว่า 4 ล้านคน ทั้งทหารและพลเรือน
สงครามเวียดนาม
สถานการณ์เริ่มมาจากขบวนการเวียดมินห์ภายใต้การนาของ
โฮจิมินห์
ได้เคลื่อนไหวต่อต้านฝรั่งเศสและญี่ปุ่นที่เข้ายึดครองเวียดนามในระหว่างสงครามโลกครั้งที่2
เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม ฝรั่งเศสได้กลับเข้าไปมีอำนาจในคาบสมุทรอินโดจีน ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านฝรั่งเศสอีกครั้ง
โฮจิมินห์ได้ร้องขอให้สหรัฐฯช่วยเหลือในการเจรจากับฝรั่งเศส
แต่สหรัฐฯได้นิ่งเฉยเพราะมีความเกรงใจฝรั่งเศส
โฮจิมินห์จึงได้เปลี่ยนไปร้องขอความช่วยเหลือจากสหภาพโซเวียตและจีนแทน
ซึ่งก็ได้รับการตอบรับและได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี สถานการณ์ในคาบสมุทรอินโดจีนได้เปลี่ยนแปลงไปเมื่อฝรั่งเศสพ่ายแพ้ต่อขบวนการ เวียดมินห์ที่เดียนเบียนฟู ส่งผลให้ เวียดนาม
ลาว เขมรได้รับเอกราช และด้วยความพ่ายแพ้นี้เองทำให้ฝรั่งเศสต้องถอนตัวออกจากภูมิภาคนี้
สหรัฐฯ จึงได้ถือโอกาสนี้เข้ามามีบทบาทแทนฝรั่งเศสในภูมิภาคทางเวียดนามใต้นี้
การเข้าไปมีอิทธิพลในเวียดนามใต้ได้นาไปสู่การเกิดขึ้นของขบวนการ
เวียดกง ซึ่งการต่อต้านนี้ได้สถานการณ์ได้ลุกลามไปสู่สงครามจำกัด (Limited
War) ที่รู้จักกันในชื่อ “สงครามเวียดนาม”
โดยการสู้รบในสงครามเวียดนามได้เปลี่ยนโฉมหน้าของการทำสงครามสมัยใหม่ด้วยบทเรียนราคาแพงของสหรัฐฯ
นำมาซึ่งการถอนตัวออกจากภูมิภานี้เมื่อ สหรัฐฯ
ไม่สามารถสร้างชัยชนะขึ้นได้ในดินแดนเวียดนาม
สหรัฐฯได้ใช้เวลานานหลายปี
ใช้กำลังพลมหาศาล กองทัพที่เกรียงไกรมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย
แต่สูญเสียกาลังพลเกือบจะ 6 หมื่นคนในขณะที่เวียดนามสูญเสียคนไปหลายล้านคน(ในสงครามเวียดนามไทยสูญเสียทหารไป
351 นาย) ในที่สุดสหรัฐฯได้ถอนกำลังทหารออกไปจากภูมิภาคนี้ด้วยปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศของตนเอง
ทำให้เวียดนามรวมประเทศเวียดนามเหนือและใต้และปกครองภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์
ต่อมาในสมัยประธานาธิบดีบิล คลินตัน สหรัฐฯได้ประกาศฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ
ฯ และเวียดนามขึ้นอีกครั้ง
สงครามในลาว
หลังจากฝรั่งเศสได้ถอนตัวไปจากภูมิภาคนี้ไปพร้อม
ๆ กับการได้รับเอกราชของลาว แต่สถานการณ์ไม่ได้สงบเรียบร้อยตามมาเมื่อ
ขบวนการกู้ชาติที่มีความนิยมลัทธิคอมมิวนิสต์ ไม่ยอมรวมกับฝ่ายรัฐบาลที่นิยมประชาธิปไตย(เป็นรัฐบาลที่ฝรั่งเศสได้จัดตั้งก่อนจะถอนทหารออก)
เลยส่งผลให้สงครามในลาวที่ต่อสู้เพื่อเอกราชเปลี่ยนสถานภาพไปสู่สงครามระหว่างลัทธิ
โดยสหรัฐฯได้ให้การสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล
ในขณะที่ฝ่ายขบวนการกู้ชาติได้รับการสนับสนุนจากพวกเวียดมินห์ แต่ฝ่ายรัฐบาลได้พ่ายแพ้เมื่อสหรัฐฯถอนกาลังออกจากภูมิภาคนี้
ฝ่ายลาวสูญเสียไปประมาณ 5 หมื่นคน
สงครามในกัมพูชา
เมื่อกัมพูชาได้รับเอกราชหลังจากความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสใน
เดียนเบียนฟู ได้ดำเนินนโยบายเป็นกลางเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์รอบ ๆ ประเทศพร้อม
ๆ กับรับการช่วยเหลือจากทุกฝ่ายทั้งโลกประชาธิปไตยและโลกคอมมิวนิสต์ ต่อมาเมื่อสหรัฐฯไม่สามารถควบคุมการดำเนินการต่างของเจ้าสีหนุในขณะนั้นได้
ทำให้สหรัฐฯสนับสนุนให้มีการปฏิวัติรัฐประหารขึ้น
ทำให้เจ้าสีหนุลี้ภัยไปกรุงปักกิ่งและจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นและร่วมมือกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ที่รู้จักกันในชื่อ“เขมรแดง (Khmer Rouge) หรือ “พรรคคอมมิวนิสต์เขมร”(Khmer
Communist Party) หรือ “กองทัพแห่งชาติกัมพูชาประชาธิปไตย”(National
Army of Democratic Kampuchea) คือ
พรรคการเมืองกัมพูชาที่นิยมลัทธิคอมมิวนิสต์ ปกครองราชอาณาจักรกัมพูชา
ซึ่งในขณะนั้นถูกเปลี่ยนชื่อเป็นกัมพูชาประชาธิปไตย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 ถึง พ.ศ.
2522
ในที่สุดเมื่อสหรัฐฯถอนตัวออกจากภูมิภาคนี้รัฐบาลกัมพูชาได้พ่ายแพ้ต่อเขมรแดงและกัมพูชาได้เปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นระบอบสังคมนิยม
ในความขัดแย้งนี้มีผู้เสียชีวิตระหว่างสงครามกว่า 7 หมื่นคน และเสียชีวิตเมื่อเขมรแดงที่นำโดยนายพลพต
เข้ายึดครองกัมพูชาอีกกว่า 1.5 ล้านคน
สิ้นสุดสงคราม
ระยะแห่งการสิ้นสุดสงครามเย็น (ช่วงทศวรรษที่ 1990)
เมื่อสหภาพโซเวียตปฏิรูปประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลง นับตั้งแต่นายมิคาอิล
กอร์บาชอฟขึ้นมาเป็นผู้นำได้ประกาศแนวนโยบายกลาสนอต (Glasnost) และเปเรสทรอยก้า (Perestroika) โดยเปิดประเทศเข้าสู่ระบบเสรี
ปรับเศรษฐกิจให้เอกชนเข้าไปประกอบธุรกิจ
การผลิตและการขายให้เป็นไปตามหลักการเสนอและสนองปฏิรูปโครงสร้างทางการเมืองให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพทางการเมืองมากขึ้น
เปิดโอกาสให้มีเสรีภาพในการรับข่าวสารข้อมูล ลดกำลังทหารและกองกำลังภายนอกประเทศ
ถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานและประเทศในยุโรปตะวันออก การปรับเปลี่ยนนโยบายดังกล่าว
ทำให้เกิดความไม่พอใจในกลุ่มผู้นาคอมมิวนิสต์หัวเก่าจนเกิดการปฏิวัติขึ้น แต่ล้มเหลวทำให้พรรคคอมมิวนิสต์หมดอำนาจ
ส่งผลทำให้แลตเวีย เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ซึ่งเป็นรัฐทางทะเลบอลติกประกาศเอกราช
ไม่ยอมอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตต่อมารัฐต่าง ๆ แยกตัวเป็นอิสระปกครองของตนเอง
มีผลทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลายลง
ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1991 ส่วนสาธารณรัฐรัสเซียภายใต้การนาของ
นายบอริส เยลท์ซิน ได้เปลี่ยนการปกครองเป็นแบบประชาธิปไตย
ประเทศบริวารของสหภาพโซเวียตในยุโรปตะวันออกเกิดการเปลี่ยนแปลงต่างแยกตัวเป็นอิสระ
หลายประเทศปรับเปลี่ยนการปกครองมาเป็นแบบประชาธิปไตยจากการล่มสลายของคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก
ส่งผลทำให้มีการสลายตัวขององค์การสนธิสัญญาวอร์ซอ องค์การโคมีคอน เมื่อเยอรมนีตะวันออกเปลี่ยนตัวผู้นำ
ได้ทุบทำลายกำแพงเบอร์ลิน ใน ค.ศ. 1989 นับเป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดสงครามเย็น
และการละเมิดสิทธิมนุษยชนถูกทำลายลง มีผลทำให้ประชาชนของเยอรมนี ทั้งสองประเทศ
เดินทางเข้าออกได้อย่างอิสระ นาไปสู่การรวมประเทศเยอรมนีภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย
ใน ค.ศ. 1990
สงครามเย็น. ( 2556). (ออนไลน์ ). แหล่งสืบค้น
:
saipin2.files.wordpress.com/.../e0b980e0b8a3e0b8b7e0b988e0b8ade0b8...
บทบาทมหาอำนาจช่วงสงครามเย็น. (ออนไลน์). แหล่งที่มา: saipimm.files.wordpress.com/.../e0b8aae0b8b1e0b887e0b884e0b8a1e0b...
สงครามเย็น( Cold
War) – หน้าบ้านจอมยุทธ. (2556). (ออนไลน์). แหล่งที่มา :
www.baanjomyut.com › ห้องสมุด
PDF บทที่ ๕ สงครามเย็น (COLD
WAR) – กองทัพเรือ. ( 2556
). (ออนไลน์).
แหล่งที่มา: www.navy.mi.th/navedu/acd/data_docu/wor.../chapter_5.pdf
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น