มิติความต่อเนื่องของกาลเวลา
ตัวอย่างเวลาและยุคสมัยที่ปรากฏยู่ในหลักฐานทางประวัติศาสตร์สากล
“...หากชายใดสมรสกับนางผู้เป็นภรรยา
และเขาหันไปมีนางบำเรอ ชายผู้นั้นสามารถนำนางบำเรอมาเลี้ยงดูที่บ้าน
แต่ห้ามมีศักดิ์เสมอภรรยา
หากภรรยาของชายใดให้หญิงรับใช้ของตนแก่สามี และต่อมานาง
ผู้นั้นให้กำเนิดบุตร และอ้างสิทธิเสมอกับภรรยาที่เป็นนายหญิง นายหญิงสามารถลดฐานะของเธอให้เป็นทาสีได้...” ผู้นั้นให้กำเนิดบุตร และอ้างสิทธิเสมอกับภรรยาที่เป็นนายหญิง นายหญิงสามารถลดฐานะของเธอให้เป็นทาสีได้...”
หากภรรยาของชายใดให้หญิงรับใช้ของตนแก่สามี และต่อมานาง
ผู้นั้นให้กำเนิดบุตร และอ้างสิทธิเสมอกับภรรยาที่เป็นนายหญิง นายหญิงสามารถลดฐานะของเธอให้เป็นทาสีได้...” ผู้นั้นให้กำเนิดบุตร และอ้างสิทธิเสมอกับภรรยาที่เป็นนายหญิง นายหญิงสามารถลดฐานะของเธอให้เป็นทาสีได้...”
ประมวลกฎหมายพระเจ้าฮัมมูราบี
อธิบายเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายนี้จัดทำขึ้นในสมัยโบราณ
ทำให้ทราบว่าในอดีตที่ห่างไกลนั้น
ได้มีความพยายามที่จะจัดระเบียบสังคมที่แบ่งเป็นชนชั้น และมีการคำนึงถึงสิทธิสตรีและบุตรด้วย
ได้มีความพยายามที่จะจัดระเบียบสังคมที่แบ่งเป็นชนชั้น และมีการคำนึงถึงสิทธิสตรีและบุตรด้วย
“ข้าฯ ได้เกิดมีความคิดขึ้นว่า ข้าฯ
จักจัดให้มีการประกาศธรรมสั่งสอนประชาชนทั้งหลาย ครั้นได้สดับธรรมนี้แล้ว
ก็จักพากันประพฤติปฏิบัติตาม จักยกระดับตนเองสูงขึ้น
และจักมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น ด้วยความเจริญทางธรรมอย่างมั่นคง...”
และจักมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น ด้วยความเจริญทางธรรมอย่างมั่นคง...”
จารึกอโศก พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต
แปล)
อธิบายเพิ่มเติม พระเจ้าอโศกมหาราชโปรดให้จารึกการเผยแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนา
“วันซินโฉ่ว เดือนเก้า
ปีที่สี่สิบห้า รัชศกเฉียนหลง
มีพระราชโองการ...ความว่า...เนื่องด้วยเจิ้งเจา เจ้าเมืองเซียนหลัว ได้เตรียมเครื่องราชบรรณาการเอกจำนวนหนึ่งพร้อมหนังสือแจ้ง โดยขอให้ช่วยกราบบังคมทูลให้ทรงทราบ...”
มีพระราชโองการ...ความว่า...เนื่องด้วยเจิ้งเจา เจ้าเมืองเซียนหลัว ได้เตรียมเครื่องราชบรรณาการเอกจำนวนหนึ่งพร้อมหนังสือแจ้ง โดยขอให้ช่วยกราบบังคมทูลให้ทรงทราบ...”
ประชุมพระราชพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม
13
อธิบายเพิ่มเติม วันซินโฉ่วตรงกับวันที่
18
เดือนเก้าตรงกับเดือนตุลาคม
ปีที่สี่สิบห้า รัชศกเฉียนหลง คือปีจักรพรรดิเฉียนหลงครองราชย์ปีที่
45 เจิ้งเจา
คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เซียนหลัว คือ
สยาม ตามที่จีนเรียก
สรุปความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สากล
ประวัติศาสตร์คือการสืบค้นเรื่องราวในอดีตของมนุษย์เพื่อศึกษาว่ามนุษย์ได้คิดได้ทำอะไรที่ส่งผลถึงปัจจุบัน แต่เนื่องจากประวัติศาสตร์มีระยะเวลาที่ยาวนานมาก นักประวัติศาสตร์จึงมีการกำหนดช่วงเวลาเพื่อให้ง่ายต่อการศึกษาประวัติศาสตร์และเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน การบอกเล่าเรื่องราวในช่วงเวลาต่าง ๆ ต้องใช้คำที่เกี่ยวกับช่วงเวลา เช่น ศักราช วัน เดือน ปี ชั่วโมง นาที ยุค สมัย เพื่อให้รู้ว่าเรื่องราวนั้นเกิดขึ้นเมื่อใด เหตุการณ์ใดเกิดก่อนเกิดหลัง และเหตุการณ์ต่าง ๆ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ดังนั้นประวัติศาสตร์จึงมีความสัมพันธ์กับเวลาอย่างยิ่ง
ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
- บอกให้รู้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น หรือสิ้นสุดในเวลาใด ช่วงเวลาใด
- บอกให้รู้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมานานเท่าใดแล้วเมื่อนับถึงปัจจุบัน
- บอกให้รู้ถึงความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ เพราะอยู่ในเวลาหรือช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เช่น กุบไลข่าน หรือคูมิไลข่าน (พ.ศ.1803 – 1837) ข่านของพวกมองโกลที่ปกครองประเทศจีนขยายอำนาจ ทำให้ผู้นำไทย คือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชแห่งราชอาณาจักรสุโขทัย พระยางำเมืองแห่แคว้นพะเยาเป็นพัยธมิตรกัน เมื่อ พ.ศ.1830 เพื่อปกป้องตนเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น